The Phantom of the Opera รอบแรก ณ รัชดาลัย

at BKK

พงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์

(เผยแพร่ใน facebook เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2556)

ข้อคิดเห็นในบทวิจารณ์นี้เป็นของผู้วิจารณ์ โครงการฯ ทำหน้าที่เป็นผู้เปิดพื้นที่ให้ได้มีการแสดงทัศนะวิจารณ์ และยินดีรับฟังข้อคิดเห็นที่แตกต่างออกไป

The Phantom of the Opera เป็นละครที่แสดงมายาวนานจนเป็นแบรนด์ที่ขายได้ทั่วโลก ละครกลายเป็นสินค้าสามารถสร้างแผนการตลาดในรูปแบบ franchise ได้อย่างลงตัว และมีการควบคุมคุณภาพทั้งด้านองค์ประกอบของเวทีฉาก แสง สี ดนตรี และมาตรฐานการแสดงซึ่งดำเนินมายาวนานร่วม 25 ปี

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ละคร franchise มาเปิดการแสดงที่โรงละครรัชดาลัย หลายปีก่อนหน้านี้ ผู้ชมชาวไทยได้มีโอกาสชม Cats, We Will Rock You และ Mamma Mia! และ The Phantom of the Opera ละครเพลงเรื่องนี้ได้สร้างสถิติราคาบัตรเข้าชมการแสดงสูงเป็นประวัติการณ์

เมื่อละครมีการแสดงมากรอบ ในแง่เทคนิคบนเวทีทั้งแสงเสียงจะไหลลื่นไหล จังหวะแม่นแต่ผู้แสดงนั้นกลับจะตรงกันข้าม ซึ่งเป็นปัญหาของละครที่แสดงมาเป็นเวลายาวนานและหลายรอบการแสดง คือความสดในการแสดงในแต่ละรอบ นักแสดงส่วนใหญ่อยู่กับบทที่ตนเองแสดงในระยะเวลานาน จึงมักจะแสดงแบบกดปุ่มโดยไม่รู้ตัว หรือผู้แสดงบางคนที่แสดงบทเดิมๆ ต่อเนื่องจะเลิกไปเพราะไม่สามารถประครองความสดในการแสดงได้ การเปลี่ยนนักแสดงในละครที่แสดงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ถือเป็นการทำให้ละครเกิดความสดได้วิธีหนึ่ง(refresh)

Brad Little เป็นนักแสดงที่แสดงในบทบทปีศาจโรงละครมากกว่าพันครั้ง ในการแสดงรอบวันที่    7 กรกฎาคม ซึ่งเป็นรอบแรกที่เปิดแสดงในประเทศไทย การแสดงบทปีศาจโรงละครของนักแสดงท่านนี้ดูแปลกออกไป จากบทปีศาจที่ผมเคยดูแทบทุกฉาก ซึ่งเหมือน Brad Littleแสดงคนเดียว และในหลายๆ จังหวะเหมือนเป็นการกดปุ่มแสดง ในหลายๆ ช่วงเหมือนเล่นเพื่อผ่านๆ ไม่ใส่ใจที่จะตีความในประโยคที่ร้อง และแสดง  โดยเฉพาะเพลง The Music of the Night แม้เพลงนี้จะร้องคนเดียว แต่ต้องมีการถ่ายทอดความรู้สึกภายในถึงความรักที่ปีศาจมีต่อคริสทีน การส่งอารมณ์รักให้คริสทีนแทบไม่เห็น นักแสดงตีความแปลกไปมากในช่วงที่เปิดหุ่นเจ้าสาวให้คริสทีนดู เมื่อคริสทีนเดินเข้าไปใกล้หุ่นและหุ่นเคลื่อนตัว        คริสทีนตกใจเป็นลม ปีศาจโรงละครฉบับนี้ปล่อยให้หญิงอันเป็นที่รัก ที่ตนกำลังปลอบประโลมเป็นลมล้มไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตา เมื่อคริสทีนนอนกองกับพื้นเขาหยิบเอาผ้ามาห่มให้ (แบบตามคิว) แล้วหันหน้ามาร้องเพลงท่อนที่เหลือใส่ผู้ชม ช่างเป็นปีศาจที่เหินห่างคริสทีน ไม่เห็นความทะนุถนอมที่มีต่อคริสทีน

การแสดงตรงจุดนี้เป็นการตีความที่สำคัญเพราะเป็นโอกาสเดียวในละครที่ปีศาจจะแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อ             คริสทีนทางกายภาพ หลังจากนี้ที่เหลือทั้งเรื่องเราจะเห็นปีศาจทั้งข่มขู่ ฉุดกระฉาก เหวี่ยง คริสทีนกองกับพื้นด้วยความโกรธ ซึ่ง Brad Little จัดเต็มให้ครีสทีนในส่วนหลัง ดูไม่สมเหตุผลเอามากๆ เพราะทั้งเรื่องปีศาจไม่เห็นแสดงความรัก    คริสทีนแม้แต่น้อย ถ้าคริสทีนไปรักกับราอูล  ปีศาจจะโกรธแค้น คริสทีนไปทำไมกัน

ผิดกับการนักแสดงคนอื่นๆ ที่ผมได้ดูต่างเวลาและวาระ ต่างเป็นปืศาจจะห่วงหา ทะนุถนอม เมื่อ คริสทีนเป็นลม ปีศาจเข้าไปประคองอุ้มคริสทีนที่บอบบางไปวางบนเตียง (เรือ) และค่อยๆ ห่มผ้าอย่างบรรจงแล้วพลางร้อง The music of the night ท่อนที่หวานอ้อยสร้อยให้คนที่เขารักแม้เธอจะสลบไม่ได้สติ เมื่อละครเดินเรื่องมาถึงช่วงหลังปีศาจจัดเต็มในส่วนความเคียตแค้น ข่มขู่ ที่คนรักไปปันใจให้ราอูลคู่แข่ง รสที่ได้ในละครจะได้อารมณ์ตบจูบ เพราะรักจึงเหวี่ยงอย่างพอดิบพอดี และคนดูสงสารตัวปีศาจอย่างจับใจที่รักของปีศาจเป็นรักคุด

เมื่อนักแสดงตีความผิดบนเวทีคงโทษใครไม่ได้นอกจากผู้กำกับ ในกรณีนี้เป็นคนดูแลการแสดงที่ตามมาในโปรดักชั่นทัวร์ได้ปล่อยข้ามการแสดงส่วนสำคัญตรงนี้หล่นหาย ผลที่ออกมาจึงเกิดสารที่ไม่สมบรูณ์อย่างที่เห็นในรอบนี้

เมื่อสารหลักของละครพูดถึงความรักสามเส้า เส้ารักของตัวปีศาจโรงละครทำความรักที่มีต่อ    คริสทีนตกหล่น ตัวราอูลที่ปกติทุกโปรดักชั่นเป็นลูกไล่เสมอ มาในโปรดักชั่นนี้ความรักที่มีต่อคริสทีน กลับฉายโชนเด่นกลบความรักของปีศาจโรงละครอย่างช่วยไม่ได้ Anthony Downing ในบทราอูลเด่นกว่าบทนำไปแบบไม่ต้องทำอะไรมาก ในส่วนของคริสทีน Claire Lyon ใช้ความใสอ่อนโลก พาตัวละครรอดตัวไปกับทิศทางการแสดงบทนี้ เธอเป็นตัวตามทั้ง ปีศาจ และ ราอูล เราจึงเห็นคริสทีนฉบับนี้หนักไปทางราอูลมากกว่า ไล่มาตั้งแต่เริ่มเรื่องจนไคลแมกซ์ฉากสุดท้ายที่ผ่านจุดที่มิอาจหวนคืนความน่าเวทนาในตัวปีศาจจึงหดหาย และดูเบาพลังอย่างน่าใจหาย

ดนตรีที่บรรเลงในคืนนั้นหลายช่วงที่ไม่คมกระชับ เหมือนผู้คุมวงยังไม่มั่นใจในการผสมเสียง และรอจังหวะทั้งจากวงและจากการแสดงบนเวที หลายเพลงจังหวะยืดย้วยไม่เร่งเร้า ช่วงกลางๆ องก์แรกนักแสดงบทคาร์ล็อตต้า ร้องคร่อมเพลงชวนลุ้นว่าดนตรีจะแก้ให้ หรือเธอจะข้ามห้อง วินาทีถัดมาเธอข้ามห้องตามดนตรีทัน  โดยทั่วไปวงดนตรีที่แสดงมากรอบจังหวะน่าจะแม่นกว่านี้ แต่เมื่ออ่านดูรายชื่อทีมนักดนตรีเกือบทั้งวงเป็นคนไทย มีเพียงหัวหน้าคุมวงเป็นคนของทีมงาน อาการที่บรรยายไปอาจจะเกิดจากวงได้ซ้อมร่วมกับผู้คุมและนักแสดงน้อยไป ผู้คุมวงกำกับดนตรีจึงไม่กล้าที่จะเร่งเร้าวง ต่างกับวงที่เล่นกันมาจนเข้าขาเป็นเวลานาน

ในส่วนของหมู่มวลดูแสดงไม่เข้าขา จังหวะไม่ได้ หลายมุขที่บทวางไว้ไม่ได้ผล เสน่ห์ในส่วนของเบื้องหลังโรงละครสะท้อนมนุษย์ ยังไม่คมชัดนัก ทุกคนระมัดระวังบทของตัวกับบทพูดของตัวราวกับซ้อมท่องบทจนคนดูอย่างผมไม่รู้สึกสนุกเท่าไหร่ อาจจะเกิดจากการแสดงกับกลุ่มคนดูชาวไทยเป็นครั้งแรกจึงเกิดการเกร็งก็เป็นได้

ราคาบัตรที่แพงเกินกว่าหน้าโรงละครต้นกำเนิด ความคาดหวังที่จะได้ดูฉาก เสื้อผ้า แสง สี เทคนิคต่างๆ โปรดักชั่นนี้ตอบสนองได้ครบถ้วนไม่ผิดหวัง แต่ในส่วนการแสดงตีความการแสดงและความไม่สดของนักแสดง ส่วนนี้ทำให้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ความบันเทิงตรงนี้ขาดตกหล่นหายเป็นเงินค่าตั๋วหลายร้อยบาททีเดียว นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งแรกที่เจอจากนักแสดงชุดทัวร์ที่ออกอาการเหนื่อย แสดงไม่สด จำได้ว่าคนที่แสดงเป็น Donna ใน Mamma Mia! เกิดอาการไม่สด เหนื่อยให้เห็นในเวทีเดียวกันนี้เช่นกัน นักแสดงคนนั้นเป็น Donna ที่ไร้สีสัน ดูด้อย โดนนักแสดงในบทอื่นกลบทั้งๆ ที่บทนี้เป็นบทสำคัญมาก คำถามที่ตามมาคือ คุณภาพที่คุมการแสดงในสูตร franchise ของคณะทัวร์แบบนี้ได้มาตราฐานเดียวกับโปรดักชั่นบ้านเกิดจริงหรือ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *