Yojimbo ภาพยนตร์แนวคาวบอยตะวันตกของ คุโรซาวะ อากิระ

 

ที่มาภาพ http://farm2.static.flickr.com/1393/1422423380_1cda4aa0e0.jpg

อรพินท์  คำสอน

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ม.ค. 2554)  ผู้เขียนได้มีโอกาสไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ครบรอบวันเกิด 100 ปี ของ คุโรซาวะ  อากิระ  ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก  งานเทศกาลครั้งนี้  เจแปนฟาวน์เดชั่น  และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิร์ล ซีเนม่า  จัดฉายภาพยนตร์ที่เป็นผลงานของ
คุโรซาวะ  จำนวน 25 เรื่อง  ให้ชมฟรี ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิร์ด ซีเนม่า  ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด  ตั้งแต่วันที่ 6 – 19  มกราคม 2554

แม้ว่า Yojimbo  จะสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 แล้วก็ตาม  แต่เนื้อหาของภาพยนตร์ก็ยังสื่อความกับผู้ชมในยุคปัจจุบันได้  (ผู้อ่านที่ไม่ใช้ชาวญี่ปุ่นมีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษให้)   ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวที่สะท้อนถึงสังคม  วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในสมัยก่อนผ่านเรื่องราวของนักดาบฝีมือฉกาจที่เข้ามาปั่นหัวเจ้าพ่อของสองแก๊งใหญ่ประจำถิ่นที่ต่างฝ่ายต่างปกป้องผลประโยชน์ของตน   แต่ยังมีบางมุมที่แฝงเรื่องราวความเป็นหนังคาวบอยตะวันตกไว้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากต่อสู้  ที่มักจะเป็นลานกว้างๆ ให้คู่ต่อสู้สองฝ่ายประจันหน้ากัน และมีลมพัดผ่าน  ใบไม้แห้งปลิวตามระลอกของกระแสลม  ก่อนที่คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายจะลงมือต่อสู้กัน

ความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกประการหนึ่งคือ  เทคนิคการถ่ายทำ  แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ขาว-ดำ ที่ถ่ายทำมานานแล้ว   แต่ความงามของมุมกล้อง  ความคมชัดของการถ่าย  และการศิลปะการถ่ายทำที่ “เล่น” ระหว่างแสงกับเงา  ทำให้พบว่าหลายๆ  ฉากในภาพยนตร์สวยไม่แพ้ภาพถ่ายชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฉากเคลื่อนไหว ทั้งฉากการต่อสู้  หรือแม้กระทั่งฉากเพลิงไหม้ในโรงเก็บไหม  ก็สามารถถ่ายเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนออกมาได้อย่างสวยงาม ราวกับเปลวไฟนั้นมีชีวิต   หรือว่าภาพนิ่งที่สะท้อนบรรยากาศของเรื่อง ที่สะท้อนภาพชนบทของญี่ปุ่น เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะคุโรซาวะประกอบอาชีพจิตรกรก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์  ซึ่งพรสวรรค์และความสามารถนี้เองที่ช่วยสร้างสรรค์ให้เกิดภาพที่สมจริงบนแผ่นฟิล์ม

นอกจากนี้  การสะท้อนอุปนิสัยใจคอของมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ ผ่านตัวละครในเรื่อง นับเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่คุโรซาวะนำเสนอผ่านผลงานของเขาเสมอมา  ในเรื่องนี้จะพบความเห็นแก่ตัวของเจ้าพ่อที่ต่างฝ่ายต่างคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง  โดยไม่สนใจศีลธรรมและความถูกต้อง   ในขณะที่ตัวเอกของเรื่องกลับเป็นผู้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อพิทักษ์ความถูกต้อง เที่ยงธรรมของสังคมที่ไร้ระเบียบเช่นนี้ไว้  และท้ายที่สุดก็สามารถขจัดความเลวร้ายไปจากสังคมได้

เมื่อได้ชม  Yojimbo  จบจนก็ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดคุโรซาวะจึงเป็นผู้กำกับที่เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก   เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์เก่าถ่ายทำมานานครึ่งศตวรษ  แต่ก็สื่อความข้ามยุคและข้ามวัฒนธรรมได้  ขณะเดียวกันเรื่องราวยังคงความสนุก ชวนติดตาม  และครบรส คือมีทั้งตลก  ตื่นเต้น  และ หม่นเศร้า   จึงไม่แปลกใจเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีผู้สนใจเข้าชมอย่างเนืองแน่น  ที่ต้องพูดเช่นนั้นเพราะในวันนั้นที่นั่งในโรงเต็มทุกที่ และยังมีผู้สนใจจำนวนหนึ่งพร้อมใจที่จะนั่งที่นั่งเสริม และนั่งบริเวณบันไดของโรงภาพยนตร์ด้วย     ซึ่งผู้ชมส่วนใหญ่มีทั้งคนไทย  คนญี่ปุ่น และชาวตะวันตก ในปริมาณเท่าๆ กัน

ด้วยเหตุนี้จึงอยากเชิญชวนผู้ที่ยังไม่เคยชมภาพยนตร์ที่กำกับโดยคุโรซาวะ  อากิระ น่าจะที่หาโอกาสไปชมสักครั้ง  เพราะเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้เหลือเวลาอีก  3 วัน  และเหลือภาพยนตร์ในชมอีกเพียง 3 เรื่องเท่านั้น  ซึ่งจะจัดฉายทุกวันในเวลา 19.00 น. เป็นต้นไป  ผู้สนใจสามารถขอรับบัตรเข้าชมฟรี 1 คนต่อ 1 ใบ 30 นาที    ก่อนเวลาฉายแต่ละเรื่อง

——————————

3 comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *